อึ้ง นักวิทย์ฉีกบัญญัติความเชื่อไบเบิล ชี้"โมเสส"ไม่ได้ใช้อิทธิฤทธิ์"แหวกทะเลแดง"
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ว่า กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ประจำศูนย์แห่งชาติวิจัยด้านบรรยากาศ และมหาวิทยาลัยโคโลราโด ของสหรัฐ ชี้ว่า โมเสส ผู้นำชนยิวยุคโบราณ อาจไม่ได้ใช้อิทธิฤทธิ์ใช้ไม้เท้าสั่งแยกทะเลแดงออกให้เปิดกว้างทางเดินสำหรับชาวยิวอพยพหนีกองทัพอียิปต์ แต่ปรากฎการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากพายุซึ่งสามารถทำให้ทะเลแยกเป็นสองส่วนได้
รายงานระบุว่า กลุ่มได้ทำการสำรวจด้วยการใช้คอมพิวเตอร์เลียนสถานการณ์ดังกล่าว และพบว่า พายุสามารถแยกทะเลเปิดกว้างเป็นทางเดินให้แก่เขาและชนทาสยิวอพยพเหมือนปรากฎการณ์ที่คัมภีร์ระบุไว้เรื่องอิทธิฤทธิ์ของโมเสส โดยจากการสำรวจพบว่า หากมีพายุเกิดขึ้นบริเวณแม่น้ำไนล์ ด้วยความเร็ว 63 ไมล์ต่อชม.และพัดเหนือแม่น้ำดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 12 ชม. จะสามารถทำให้ทะเลเกิดการไหลย้อนกลับได้ในระดับความลึก 2 เมตร โดยจะเกิดเป็นพื้นที่ตรงกลางเหมือนสะพานข้าม มีความยาว 2 กิโลเมตร และกว้าง 5 กิโลเกมตร ปรากฎการณ์ดังกล่าวพบว่า เกิดขึ้นเป็นเวลานาน 4 ชม.ซึ่งตามคัมภีร์ไบเบิลนั้น ระบุว่า เมื่อเดินทางมาริมทะเลแดง กองทัพอียิปต์ได้ติดตามชาวยิวที่อพยพหนีตามโมเสส เพื่อตามคนเหล่านี้กลับไปเป็นทาสดังเดิม และพระเจ้าได้ทรงให้โมเสสชูไม้เท้าขึ้นเหนือน้ำ ทำให้ทะเลแดงแหวกออก เป็นทางเดินให้อิสราเอลเดินข้ามไป แต่เมื่อกองทัพอียิปต์จะข้ามตาม ทะเลก็กลับคืนดังเดิม และท่วมกองทัพอียิปต์ตายไปเสียสิ้น
ด้านนายคาร์ล ดรูว์ แห่งศูนย์วิจัยบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐ บอกว่า ผู้คนมักจะตื่นเต้นกับเรื่องราวการอพยพหมู่ของทาสชาวยิวหนีกองทัพอียิปต์ ตามเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิล แต่จากการสำรวจนั้นชี้ว่า การแหวกออกของทะเลเป็นเรื่องของกฎธรรมชาติ
นักวิทยาศาสตร์ไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้างธรรมชาติ
ตอบลบนักวิทยาศาสตร์ไม่เชื่อความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าจึงตาบอดฝ่ายวิญญาณ
ตอบลบพระเจ้าทรงเป็นที่สักการะทรงใช้พระฤทธานุภาพของพระองค์โดยผ่านพลังของธรรมชาติมาแหวกทะเลแดงซึ่งพระองค์ทรงสำแดงฤทธิ์โดยการทูลของโมเสสเพื่อช่วยชนชาติอิสลาแอลเผ่าพันธุ์ศักดิสิทธิ์ของพระองค์
ตอบลบโมเสสไม่ได้ทำ แต่อัลเลาะห์ทำ
ตอบลบโมเสสไม่ได้ทำ แต่อัลเลาะห์ทำ
ตอบลบ